เรื่องราวของพระเยซู

พระเยซู
เรื่องราวชีวิตของพระเยซู ตั้งแต่ประสูติจนถึงการถูกตรึงกางเขน

    พระเยซูคริสต์เป็นบุคคลสำคัญที่สุดในศาสนาคริสต์ และเป็นศูนย์กลางของความเชื่อสำหรับคริสตชนทั่วโลก ชีวิตของพระองค์เต็มไปด้วยเหตุการณ์อัศจรรย์ คำสอนที่ทรงพลัง และการเสียสละเพื่อมวลมนุษย์ ในบทความนี้เราจะพาคุณย้อนกลับไปดูเรื่องราวชีวิตของพระเยซู ตั้งแต่การประสูติจนถึงการถูกตรึงกางเขน เพื่อทำความเข้าใจถึงความหมายและความสำคัญของพระองค์ในศาสนาคริสต์


1. การประสูติของพระเยซู

    เรื่องราวของพระเยซูเริ่มต้นที่เมืองเบธเลเฮม ในดินแดนปาเลสไตน์ (ปัจจุบันคืออิสราเอล) เมื่อประมาณ 2,000 ปีก่อน ตามความเชื่อในพระคัมภีร์ไบเบิล พระเยซูประสูติจาก พระนางมารีย์ ซึ่งเป็นหญิงพรหมจารี โดยการประสูติของพระองค์เป็นไปตามคำทำนายในพันธสัญญาเดิม (Old Testament) ว่าเมสสิยาห์ (ผู้มาไถ่) จะบังเกิดจากหญิงพรหมจารี

พระเยซูประสูติในคอกสัตว์ เพราะไม่มีที่พักในโรงแรม และมีผู้เลี้ยงแกะและโหราจารย์จากตะวันออกมาเยี่ยมชมพระองค์ พร้อมถวายของขวัญเป็นทองคำ กำยาน และมดยอบ เหตุการณ์นี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความเชื่อที่ว่าพระเยซูคือพระผู้ช่วยให้รอด (Savior) ที่พระเจ้าส่งมาเพื่อไถ่บาปให้แก่มนุษยชาติ


2. วัยเด็กและการเติบโต

    หลังจากประสูติไม่นาน พระเยซูและครอบครัวต้องหนีไปอียิปต์เพื่อหลบหนีการสังหารเด็กโดยกษัตริย์เฮโรด เมื่อกลับมาที่นาซาเร็ธ พระเยซูเติบโตขึ้นในครอบครัวที่เรียบง่าย พระองค์เป็นบุตรของโยเซฟ ช่างไม้ และพระนางมารีย์ มีเรื่องเล่าในพระคัมภีร์ว่าเมื่อพระเยซูอายุ 12 ปี พระองค์ได้ไปที่วิหารในกรุงเยรูซาเล็มและสนทนากับนักปราชญ์ทางศาสนา แสดงให้เห็นถึงปัญญาและความเข้าใจในพระคัมภีร์ตั้งแต่ยังเด็ก


3. การเริ่มต้นพันธกิจ

    พระเยซูเริ่มต้นพันธกิจการประกาศข่าวดี (Gospel) เมื่ออายุประมาณ 30 ปี โดยรับบัพติศมา (ศีลล้างบาป) จาก ยอห์นผู้ให้บัพติศมา ที่แม่น้ำจอร์แดน หลังจากนั้นพระองค์ได้เดินทางไปทั่วดินแดนปาเลสไตน์เพื่อสอนเกี่ยวกับ อาณาจักรของพระเจ้า และแสดงการอัศจรรย์ต่างๆ เช่น การรักษาคนป่วย การขับผี และการคืนชีวิตให้คนตาย

คำสอนของพระเยซูเน้นที่ความรัก การให้อภัย และการรับใช้ผู้อื่น พระองค์สอนให้รักศัตรู และให้ช่วยเหลือผู้ที่ยากไร้ พระเยซูยังเลือกสาวก 12 คนเพื่อร่วมเดินทางและช่วยเผยแพร่คำสอนของพระองค์


4. การถูกทรยศและการถูกจับกุม

    แม้จะมีผู้คนจำนวนมากที่ศรัทธาในพระเยซู แต่ก็มีบางกลุ่มที่ไม่พอใจกับคำสอนของพระองค์ โดยเฉพาะผู้นำศาสนายิวและทางการโรมัน ที่เห็นว่าพระเยซูเป็นภัยต่ออำนาจของพวกเขา

ก่อนที่พระเยซูจะถูกจับกุม พระองค์ได้จัดพิธีอาหารค่ำมื้อสุดท้าย (The Last Supper) กับสาวก 12 คน ในระหว่างมื้ออาหาร พระองค์ได้ทำนายว่าหนึ่งในสาวกจะทรยศพระองค์ และนั่นคือ ยูดาส อิสคาริโอท ที่รับเงิน 30 เหรียญเพื่อนำทางให้ทหารมาจับพระเยซู


5. การถูกพิพากษาและตรึงกางเขน

    หลังจากถูกจับกุม พระเยซูถูกนำไปไต่สวนโดยผู้นำศาสนายิวและทางการโรมัน พระองค์ถูกกล่าวหาว่าอ้างตัวเป็นพระเจ้าและเป็นกบฏต่อโรมัน แม้ผู้ว่าราชการ ปอนติอุส ปีลาต จะไม่พบความผิดในตัวพระเยซู แต่เขาก็ยอมให้ประชาชนตัดสินใจ และประชาชนเลือกที่จะปล่อย บารับบัส นักโทษอาชญากร แทนที่จะปล่อยพระเยซู

    พระเยซูถูกนำไปตรึงกางเขนที่เนินเขากอลโกธา ซึ่งเป็นวิธีการประหารชีวิตที่โหดร้ายที่สุดในสมัยนั้น ก่อนสิ้นพระชนม์ พระองค์ยังกล่าวคำว่า ขอโปรดอภัยโทษพวกเขา เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าตนทำอะไร” แสดงถึงความรักและการให้อภัยแม้ในวินาทีที่เจ็บปวดที่สุด


6. การฟื้นคืนพระชนม์

    สามวันหลังจากถูกตรึงกางเขน พระเยซูฟื้นคืนพระชนม์จากความตาย (Resurrection) เหตุการณ์นี้เป็นหลักฐานสำคัญที่คริสตชนเชื่อว่าพระเยซูคือพระบุตรของพระเจ้า และเป็นผู้ชนะความตาย พระองค์ปรากฏตัวต่อหน้าสาวกและผู้ติดตามหลายครั้งก่อนจะเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ (Ascension)


สรุป

    ชีวิตของพระเยซูคริสต์เป็นเรื่องราวแห่งความรัก การเสียสละ และความหวัง ตั้งแต่การประสูติในคอกสัตว์ จนถึงการถูกตรึงกางเขนเพื่อไถ่บาปให้แก่มนุษยชาติ พระองค์เป็นแบบอย่างของการใช้ชีวิตเพื่อผู้อื่น และเป็นศูนย์กลางของความเชื่อสำหรับคริสตชนทั่วโลก

    หากคุณสนใจเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับพระเยซู ลองอ่านพระคัมภีร์ไบเบิล โดยเฉพาะหนังสือ พระวรสาร (Gospels) ที่บันทึกเรื่องราวของพระองค์อย่างละเอียด หรือไปที่โบสถ์ใกล้บ้านเพื่อพูดคุยกับผู้นำศาสนาและชุมชนคริสต์


คำถามชวนคิด: คุณคิดว่าคำสอนของพระเยซูสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร? แชร์ความคิดเห็นของคุณในคอมเมนต์ด้านล่างได้เลย!

Labels:

แสดงความคิดเห็น

[blogger]

Author Name

ฟอร์มรายชื่อติดต่อ

ชื่อ

อีเมล *

ข้อความ *

ขับเคลื่อนโดย Blogger.